หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูวิมลวรวัฒน์ [เฉลิม ฐานวโร (จันทศรี)]
 
เข้าชม : ๒๐๐๘๒ ครั้ง
ศึกษาทัศนคติต่อการสอนธรรมศึกษาของพระสงฆ์ในโรงเรียนชุมชน วัดบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ชื่อผู้วิจัย : พระครูวิมลวรวัฒน์ [เฉลิม ฐานวโร (จันทศรี)] ข้อมูลวันที่ : ๒๘/๐๔/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระราชโมลี
  ชัยชาญ ศรีหานู
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

          วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติต่อการสอนธรรมศึกษาของพระสงฆ์ในโรงเรียนชุมชนวัดบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการสอนธรรมศึกษาของพระสงฆ์ในโรงเรียนชุมชนวัดบ้านระกาศ         อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

           กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกโดยวิธีสุ่มแบบเจาะจงจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ - ๖ โรงเรียนชุมชนวัดบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑๒๐ คน เป็นนักเรียนชาย ๖๒ คน  (ร้อยละ ๕๑.๖๗)  และนักเรียนหญิง ๕๘ คน  (ร้อยละ ๔๘.๓๓)  ส่วนใหญ่ร้อยละ ๓๖.๖๗ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ส่วนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ซึ่งมีจำนวนเท่ากันกับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ซึ่งมีจำนวนร้อยละ ๓๑.๖๗ ในแต่ละชั้นเรียน ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นเท่ากับ ๐.๘๘ สถิติที่ใช้ในการทำวิจัยประกอบด้วยสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติที่ใช้ศึกษาวัตถุประสงค์การวิจัย ได้แก่ สถิติการแจกแจงแบบทีชนิดที่เป็นอิสระจากกัน (t-dependent) และสถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (Analysis of Covariance : ANOVA)

           ผลการศึกษาตามวัตถุประสงค์พบว่า  ๑) ด้านเนื้อหาหลักสูตรมีสาระที่น่าสนใจ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ยากแก่การทำความเข้าใจของนักเรียน  ๒) ด้านเทคนิคการสอน พบว่า พระสอนมีความรู้ดีและสอนเก่ง แต่ขาดทักษะในการการอธิบายเนื้อหาหรือยกตัวอย่างประกอบให้นักเรียนเข้าใจง่าย  ๓) ด้านการจัดกิจกรรมการสอน พบว่า พระสงฆ์มีการจัดกิจกรรมด้านการสาธิตการกราบไหว้และการถวายของพระสงฆ์ แต่ไม่มีการจัดนิทรรศการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและการจัดทัศนศึกษานอกสถานที่ให้สอดคล้องกับเนื้อหา  ) ด้านการใช้สื่อการสอน พบว่า มีการใช้สื่อการสอนได้ตรงกับเนื้อหาของบทเรียนเป็นส่วนใหญ่ แต่นักเรียนไม่เกิดการเรียนรู้ผ่านสื่อตามสภาพจริงจากสื่อนั้น  ) ด้านการจัดสภาพแวดล้อม พบว่า พระสงฆ์ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียน แต่ไม่มีทักษะในการสร้างสภาพแวดล้อมในห้องเรียนเอื้อต่อการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา  ) ด้านการวัดผลและประเมินผล พบว่า พระสงฆ์ใช้ข้อสอบเน้นความคิดความเข้าใจอย่างมีเหตุผล แต่พระที่สอนนั้นไม่มีการประเมินผลหลังการเรียนทุกครั้ง

           ผลการศึกษาทัศนคติของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงในด้านการสอนธรรมศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่นักเรียนหญิงมีคะแนนเฉลี่ยที่สูงกว่านักเรียนชาย โดยเฉพาะทัศนคติต่อเนื้อหาหลักสูตรที่พบว่ามีค่าเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนด้านอื่นๆ นั้น  มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับใกล้เคียงกันและไม่พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ สำหรับการศึกษาทัศนคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ ต่อการจัดกิจกรรมการสอนพบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีค่าเฉลี่ยทัศนคติที่สูงกว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนทัศนคติต่อการสอนธรรมศึกษาในด้านอื่นๆ นั้นไม่พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕

           ผลการศึกษาปัญหาอุปสรรคต่อการสอนธรรมศึกษาของพระสงฆ์ในโรงเรียนชุมชนวัดบ้านระกาศ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ผลของการศึกษาพบว่า เนื้อหาหลักสูตรยากแต่เข้าใจง่าย พระสงฆ์ขาดเทคนิคการสอนการอธิบายยกตัวอย่างประกอบการเรียน ไม่มีการจัดการศึกษานอกสถานที่สอดคล้องกับเนื้อหา และพบว่ามีใช้สื่อการสอนที่ไม่ทันสมัย สภาพแวดล้อมในห้องเรียนไม่เอื้อต่อการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา และพระที่สอนนั้นไม่มีการประเมินผลหลังการเรียน

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕