หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » สุรีภรณ์ จันทร์ทอง
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๔ ครั้ง
การศึกษาเชิงวิเคราะห์การเตรียมความพร้อมวาระสุดท้ายของชีวิตในมหาปรินิพพานสูตร (ชีวิตและความตาย)
ชื่อผู้วิจัย : สุรีภรณ์ จันทร์ทอง ข้อมูลวันที่ : ๑๒/๐๓/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระสังฆรักษ์เอกภัทร อภิฉนฺโท
  เมธาวี อุดมธรรมานุภาพ
  -
วันสำเร็จการศึกษา : 2559
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเรื่องราวที่เป็นเหตุการณ์สำคัญและหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธกิจในการเตรียมความพร้อมในวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งปรากฏในมหาปรินิพพานสูตร

ผลการวิจัย พบว่า มหาปรินิพพานสูตรเป็นพระสูตรที่บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจาริกแสดงธรรมของพระพุทธองค์ครั้งสุดท้าย ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนแสดง อปริหานิยธรรม แว่นธรรม อัปปมาทธรรม ไตรสิกขาและสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นหลักธรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวตาย และทรงใช้พุทธกิจในวาระสุดท้ายของพระพุทธองค์เป็นการแสดงธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ให้ประจักษ์แจ้งแก่ภิกษุสงฆ์ที่ตามเสด็จในขบวนจาริกด้วย

จากการศึกษาครั้งนี้ของผู้วิจัย พบว่า หลักการเตรียมความพร้อมในวาระสุดท้ายของชีวิต ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในมหาปรินิพพานสูตร พระพุทธองค์ทรงสอนว่าชีวิตมีความตายเป็นที่สุด ทรงตรัสอุปมาอุปไมยว่าทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกนี้เปรียบเสมือนภาชนะดินที่ช่างหม้อได้ปั้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ขนาดใด สุดท้ายก็ต้องแตกสลายด้วยกันทั้งสิ้น ความตายย่อมปรากฏเกิดขึ้นแก่ทุกชีวิตโดยไม่เลือกเหตุ วัย เวลา หรือสถานที่ หากเมื่อเข้าใจธรรมชาติชีวิตและวางท่าทียอมรับความตายได้ ก็ควรดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีสติ หมั่นขวนขวายทำคุณงามความดีในกิจที่ควรทำตามบทบาทหน้าที่ของตน ด้วยความเพียร เพื่อรู้จักการละวางความยึดมั่นถือมั่น เข้าถึงความสิ้นกิเลส คือ พระนิพพาน

จากการศึกษานี้ผู้วิจัยพบว่าธรรมที่ทรงแสดงในช่วงวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพผ่านกระบวนการเตรียมความพร้อมเพื่อเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น เริ่มตั้งแต่ทรงรับรู้ได้ว่าสภาพสังขารมีความเสื่อมไปตามธรรมชาติ จนมิอาจใช้ร่างกายนี้เพื่อปฏิบัติพุทธกิจได้อีกต่อไป ทรงกำหนดว่าอีก ๓ เดือนจะเสด็จปรินิพพาน ทรงวางแผนการจัดการพุทธสรีระ ทรงเลือกเมืองกุสินาราเป็นสถานที่ดับขันธปรินิพพาน ทรงบอกกล่าวภิกษุสงฆ์เรื่องธรรมวินัย เพื่อให้หมู่สงฆ์ปกครองกันเองได้ ทรงปลอบพระอานนท์ให้คลายโศกและให้กำลังใจ ขยันหมั่นเพียรปฏิบัติเพื่อให้บรรลุธรรม ทรงเตรียมพระวรกาย สรงน้ำ และดื่มน้ำในแม่น้ำกกุธา เพื่อปรับสมดุลของธาตุในร่างกาย ทรงรับสั่งให้วางพระแท่นระหว่างใต้ต้นสาละ ๒ ต้น เตรียมปูผ้ารองนอน ๔ ชั้นเพื่อรองรับพระวรกายให้ได้นอนพักอย่างสุขสบาย ทรงนอนตะแคงพระวรกายไปทางขวา ทรงเปิดโอกาสให้ภิกษุถามข้อสงสัยในธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน ทรงตรัสปัจฉิมโอวาท จากนั้นพระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ในยามปัจฉิมราตรีกาล ภายใต้แสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง ท่ามกลางหมู่สงฆ์ผู้เป็นพุทธสาวกอย่างสงบ

ผลการวิจัยนี้สามารถสรุปได้เป็นสาระสำคัญหลักการเตรียมตัวในวาระสุดท้ายของชีวิตตามที่ได้ศึกษาในมหาปรินิพพานสูตรร่วมกับค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ อาจเรียกได้ว่าพุทธวิธีการเตรียมตัวในวาระสุดท้ายของชีวิตหรือพุทธวิธีเตรียมตัวตายคือ

๑.การรับรู้ความจริงของสภาพร่างกายว่ามีความเสื่อมความเจ็บไข้เป็นธรรมดา

๒.   การวางใจยอมรับความตายที่กำลังจะมาถึง

๓.   การเลือกสถานที่ตาย

๔.   การวางแผนจัดการงานศพ

๕.   การจัดการภารกิจที่ค้างคา

๖.   การเตรียมความพร้อมร่างกายและสถานที่

๗.   การกล่าวคำอำลา

๘.   การเจริญสติ

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕