หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูประโชติพัชรพงศ์ (นัฐพงศ์ วิสุทฺโธ)
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๘ ครั้ง
การศึกษารูปแบบการจัดการโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน
ชื่อผู้วิจัย : พระครูประโชติพัชรพงศ์ (นัฐพงศ์ วิสุทฺโธ) ข้อมูลวันที่ : ๑๔/๐๓/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูสิริรัตนานุวัตร
  พระครูพิพิธจารุธรรม
  -
วันสำเร็จการศึกษา : 2558
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

    การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาสภาพการจัดการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ๒) ศึกษาความคาดหวังต่อการจัดการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ๓) เพื่อวางแนวทางพัฒนาโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนให้เหมาะกับวัดขนาดเล็ก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือกลุ่มสามเณรในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ณ วัดสว่างราษฎร์สามัคคี จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน ๒๐๐ รูป โดยวิธีการเจาะจงทั้งหมดที่ยังคงอยู่ในระหว่างบรรพชาในขณะเก็บข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน โดยแบ่งเป็นสามส่วน ได้แก่ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนที่ ๒ ความคิดเห็นต่อโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน แบ่งออกเป็นสามด้าน ได้แก่ ด้านสภาพแวดล้อมทั่วไป อาคาร สถานที่ ด้านรูปแบบกิจกรรมการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน และด้านการบริหารจัดการโครงการ ส่วนที่ ๓ คือข้อคิดเห็นและคำเสนอแนะ ลักษณะปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ โดยการหาค่าความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าฐานนิยม และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

              จากผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่อยู่ในระบบการศึกษาหลักชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔๖ ส่วนน้อยอยู่ในชั้นมัธยมศึกษา ผู้ปกครองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ณ วัดสว่างราษฎร์สามัคคี จังหวัดเพชรบูรณ์ ด้านสภาพแวดล้อมทั่วไป อาคาร สถานที่ อยู่ในเกณฑ์ดีมาก (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ๓.๖๑ ฐานนิยม ๕ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ๐.๒๒) จุดเด่นที่จุดของวัดคือความปลอดภัย ในขณะที่จุดที่ควรปรับปรุงคือความคับแคบของอาคารสถานที่และห้องน้ำ ด้านรูปแบบกิจกรรมการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนอยู่ในเกณฑ์ดี (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ๓.๙๖  ฐานนิยม ๔ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ๐.๙๖) วัดสว่างราษฎร์สามัคคีสามารถดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงที่ตั้งไว้ได้มากที่สุด ในขณะที่เนื้อหากิจกรรมจะต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทสังคมมากขึ้น  ด้านการบริหารจัดการโครงการ อยู่ในเกณฑ์ดีมากที่สุด  (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ๓.๙๘ ฐานนิยม ๕ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ๑.๐๒) โดยมีการชี้แจ้งรายละเอียดให้กับผู้ปกครองรวมถึงมีระยะเวลาการเตรียมตัวให้กับผู้ปกครองและเยาวชนอย่างเพียงพอ

             ทำให้ทราบได้ว่า โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ณ วัดสว่างราษฎร์สามัคคี จังหวัดเพชรบูรณ์ จาก ๓ ด้านที่ศึกษา พบว่าวัดดำเนินรูปแบบการบริหารจัดการโครงการได้ดีที่สุด รองลงมาคือด้านรูปแบบกิจกรรม สำหรับด้านที่ควรต้องปรับปรุงคือสภาพแวดล้อมทั่วไป อาคารสถานที่

ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕