หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระสมจิตร ญาณวีโร (บุญปก)
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๙ ครั้ง
การปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ( สาขาการจัดการเชิงพุทธ )
ชื่อผู้วิจัย : พระสมจิตร ญาณวีโร (บุญปก) ข้อมูลวันที่ : ๒๔/๐๙/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหากฤษฎา กิตฺติโสภโณ
  พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท
  -
วันสำเร็จการศึกษา : 2561
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงฆ์เพื่อ ๑. ศึกษาการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ๒. ศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลใน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ และ ๓.  ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการใน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์

งานวิจัยฉบับนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างงานวิจัยเชิงปริมาณ ด้วยการสำรวจ  กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพระสงฆ์จำนวน ๑๖๘ รูป เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ ๐.๙๔๒ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-Teat) ค่าเอฟ (f-Teat) และงานวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน ๘ ท่าน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา

ผลการวิจัยพบว่า

๑. การปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม  จังหวัดสุรินทร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก  (  = ๓.๕๕, S.D. = ๐.๖๔๕)  เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทั้ง ๖ ด้าน คือ ด้านนิติธรรม ( = ๓.๖๐ , S.D. = ๐.๗๒๑) ด้านความคุ้มค่า (  = ๓.๕๗ , S.D. = ๐.๗๑๗ ) ด้านความรับผิดชอบ (  = ๓.๕๕ , S.D. = ๐.๗๔๐) ด้านคุณธรรม (  = ๓.๕๔ , S.D. = ๐.๗๓๔) ด้านการมีส่วนร่วม (  = ๓.๕๔, S.D. = ๐.๗๔๕)  และด้านความโปร่งใส (  = ๓.๔๘ , S.D. =๐.๖๙๔) ตามลำดับ

๒. ผลเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของพระสงฆ์ต่อ การปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม  จังหวัดสุรินทร์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ พรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม และวุฒิการศึกษาสามัญ พบว่า พระสงฆ์ที่มี อายุ ต่างกันมีความคิดเห็นต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม  จังหวัดสุรินทร์ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมุติฐานที่ตั้งไว้  ส่วนพระสงฆ์ที่มีพรรษา วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาเปรียญธรรม และวุฒิการศึกษาสามัญต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม  จังหวัดสุรินทร์ ไม่ต่างกัน จึงปฎิเสธสมมุติฐานที่ตั้งไว้

          ๓. ปัญหา อุปสรรค เกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์ตามหลักธรรมาภิบาลของพระสังฆาธิการในอำเภอสนม  จังหวัดสุรินทร์ พบว่า พระสังฆาธิการขาดความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายอย่างแท้จริง ขาดการกระจายอำนาจด้านการปกครองโครงสร้างทางรูปแบบการปกครองยังไม่ชัดเจน ข้อเสนอแนะพบว่า คณะสงฆ์ควรมีการจัดอบรมถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการด้านกฎหมาย ควรกระจายอำนาจการปกครอง เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายและพัฒนารูปแบบการปกครองให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕